ผู้เขียนขอแบ่งกลุ่มคนขายของออนไลน์ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มมือใหม่หัดขาย กลุ่มนี้อยากทดลองขายของออนไลน์ ขายขำๆ ขายได้ก็ดี ขายไม่ได้ก็เสียใจนิดหน่อย และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่เริ่มคิดเอาจริง อยากจะสร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่จากการขายของออนไลน์ และแน่นอนว่า…ต้องการทำกำไรเป็นหลักล้าน !
ทุกคนสามารถทำเงินได้เป็นล้านค่ะ ถ้ามีเวลาให้ และตั้งใจจริง หลายคนมีแรงฮึดอยู่เต็มตัว พร้อมทุ่มเต็มที่ ! แต่ติดอยู่ที่ว่า..ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี? (แป่วว) เรื่องนี้ตอบได้ง่ายมากๆค่ะ
สิ่งที่คนทุกคนที่อยากมีกิจการที่มั่นคงเป็นของตัวเองต้องทำ อย่างแรกก็คือ “การวางแผนที่มีระบบ” ค่ะ
ทุกอย่างต้องมีการวางแผน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยขนาดไหน การจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้มีแแผน แล้วเรื่องใหญ่ ๆ อย่างการทำธุจกิจหาเลี้ยงชีวิตตัวเองจะไม่ใช้การวางแผนได้อย่างไร ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำธุรกิจออกมาได้ประสบความสำเร็จ ไอเดียเป็นเพืยงส่วนหนึ่งในการทำให้เกิดธุรกิจขึ้นมาได้ แต่ไอเดียไม่สามารถทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้หากขาดการวางแผน เพราะฉะนั้นการวางแผนการทำธุรกิจอย่างยอดเยี่ยม จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้อย่างรวดเร็ว
แล้วพ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มก้าวแรกในการวางแผนได้อย่างไร?
1. SWOT การวิเคราะห์ศักยภาพ
ชื่อการจะไม่คุ้นหูซักหน่อย แต่เป็นที่นิยมมากเลยในการวิเคราห์สิ่งต่าง ๆ (ไม่เพียงแต่ด้านธุรกิจเท่านั้น) แต่เจ้า SWOT ย่อมาจาก
S = Strengths หรือความแข็งแกร่ง เรียกง่าย ๆ ว่าจุดแข็งในสินค้าของตัวพ่อค้าแม่ค้าเอง ว่าจะเอาอะไรออกไปสู้ในสงครามการค้าขายที่ต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงขึ้นทุกวัน
W = Weakness จุดอ่อน การวิเคราะห์หาจุดอ่อนของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย เอาจริงแล้วหาคนมาช่วยวิเคราห์ดูจะง่ายกว่าเหมือนการส่องตัวเองในกระจก ใช่ว่าทุกคนจะหาจุดบกพร่องของตัวเองเจอ หรือหากเจอก็อาจจะไม่ใช่เสียทั้งหมด แล้วยังมีการหลอกตัวเองมาเป็นอุปสรรคใหญ่ในการหาจุดด้อยของตัวเองอีก การหาคนมาง่ายวิเคราะห์น่าจะช่วยสะท้อนความจริงออกมาได้มากกว่า
O = Opportunity โอกาส การขยายช่องทางธุรกิจในอนาคตเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึง เพราะธุรกิจจะหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ ต้องขยับขยายตัวเองออกไปตลอดเวลา มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา การหยุดอยู่กับที่เหมือนการฆ่าตัวตายอย่างช้า ๆ และสุดท้ายคือ
T = Threats ภัยเสี่ยง คำนวณความเสี่ยงของธุรกิจสำหรับมือใหม่อาจจะเป็นงานหินเสียหน่อย ต้องใช้เวลาปรับตัวลองผิดลองถูกกันพอสมควร ถ้ามีผู้ช่วยมาแนะนำแนวทางให้เสียก่อนก็ดีเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเสียใจอะไรไปเพราะของแบบนี้ยังไงก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
2.เจาะลึกลงไปในขั้นตอนรายละเอียด
หลังจากวางแผนวิเคราะห์กันไปแล้ว ต้องมาถึงขั้นตอนการลงรายละเอียดถึงขั้นตอนการผลิต อันนี้แต่ละคนคงมีแนวทางเป็นของตัวเอง แต่แอบกระซิบบอกไว้ว่าต้องมีการวางแผนที่เป็นระบบดีมาก การบริหารเงินอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ไหลคล่องไปได้เรื่อย ๆ ยิ่งลงรายละเอียดได้เท่าไหร่ยิ่งดี
3. ออกไปลองตลาดเอง
คู่แข่งทางการค้าเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ละคนก็มีอะไรใหม่ ๆ มาลงสนามการค้าอยู่ตลอด การลองสมมติตัวเองไปเป็นลูกค้าเอง แล้วลองชมตลาดดูก็เป็นวิธีการวางแผนที่ดี เพราะถ้าหากพ่อค้าแม่ค้ารู้ใจลูกค้า อ่านใจออก รู้ว่าตลาดเดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปถึงไหนแล้ว การทำการตลาดขยายธุรกิจก็เป็นเรื่องไม่ยากเท่าไหร่ เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะสามารถมองเห็นจุดอ่อนของตัวเองได้
4. มองภาพรวมในอนาคต
วางแผนทีต้องวางให้ไกล ยิ่งเป้าหมายในอนาคตชัดเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมันจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเดินหน้าไปต่อของธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าได้อย่างดีเลย หากภาพในอนาคตชัดเจน พ่อค้าแม่ค้าจะมีแรงผลักดันในการทำงานได้มากขึ้นไปอีก เพราะรู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ แล้วมีทิศทางไปในแนวไหน
เมื่อมีการวางแผนที่ชัดเจนแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำมมันให้สำเร็จไปด้วยดีตามแผนที่วางไว้ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เพราะทุกอย่างคงไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ปัญหาอาจจะมีบางเป็นระยะ ก็ถือเป็นบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ แต่อย่าท้อขอแค่ให้เดินตามแผนไป ทุกอย่างจะออกมาดีเอง
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^