อินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้ง (Influencer Marketing) ไม่ได้เป็นเทรนด์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เริ่มแพร่หลายมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 โดยเริ่มจากการใช้ ดารา นักแสดง คนดังที่เป็นที่รู้จัก และพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์ที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ดีมากเพราะชื่อเสียงของพวกเขาช่วยการันตีความน่าเชื่อถือ
นอกจากกลุ่มดารายังการมีพัฒนาของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์เพิ่มขึ้น ทั้งบล็อกเกอร์ ยูทูบเบอร์ และเน็ตไอดอล ที่เน้นการให้ข้อมูลในรูปแบบประสบการณ์ หรือการรีวิว ที่เข้าถึงง่าย โดยคนกลุ่มนี้จะมีอิทธิพลในแง่ส่งเสริมการตัดสินใจซื้อมากกว่าช่วยสร้างชื่อเสียงเหมือนกลุ่มดาราเซเลบ
เมื่อหลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์มากขึ้นเสียจนผู้บริโภคเริ่มจับทางได้และเลือกจะเชื่อคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์รายเล็ก (Nano – Micro Influencer) ที่ยังไม่มีชื่อเสียงมากกว่า การให้คนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่ (Macro Influencer) ที่มีชื่อเสียงมาช่วยโปรโมตสินค้าเนียนๆ จึงอาจจะไม่ได้ให้ผลดีเหมือนกันทุกแคมเปญ ดังนั้นนักการตลาดจึงต้องกลับมาทบทวนแผนการเดิมอีกครั้ง โดยเฉพาะเป้าหมายแคมเปญเพื่อดูว่าการใช้อินฟลูเอนเซอร์หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิดในระดับใดเหมาะจะจูงใจผู้บริโภคในโอกาสใด และโอกาสประสบความสำเร็จมีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวิธี ซึ่งสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนเริ่มวางแผนงานประกอบด้วย
เป้าหมายของแคมเปญคืออะไร
พิจารณาว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการจากการทำแคมเปญ อยากสร้างการรับรู้ เข้าถึงคนที่มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้า (Leads) เพิ่มยอดขาย หรือสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ เมื่อทราบเป้าหมายก็ต้องกำหนดแนวทางวัดผลด้วย ซึ่งการมีส่วนร่วมมักถูกใช้เป็นหนึ่งในตัววัดผล แต่ขณะเดียวกันก็อย่าลืมพิจารณาด้วยว่าแต่ละเป้าหมายและการวัดผลเหมาะกับแบรนด์ของคุณด้วยหรือเปล่า รวมทั้งทุกคนที่เกี่ยวข้องในงานส่วนนี้ไม่ว่าจะเป็นทีมงานของคุณและอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณจะร่วมงานมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องของเป้าหมายและการวัดผล
กำหนดงบประมาณ
ก่อนเริ่มแคมเปญคุณต้องรู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ไปกับแคมเปญนั้นๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ก็มีหลายราคาแตกต่างกันยิ่งจ้างคนดังค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงตาม ไม่เพียงแค่งบจ้างงานอินฟลูเอนเซอร์ คุณต้องวางแผนในเรื่องการใช้งบทำโฆษณาด้วยว่าคุณต้องใช้งบมากแค่ไหนในการทำให้โฆษณาของคุณถูกมองเห็นได้มากที่สุด แม้คุณมีอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยดึงความสนใจก็จริงแต่คุณก็ยังต้องการพลังจากการทำโฆษณามาช่วยส่งเสริมให้แคมเปญของคุณถูกกระจายออกไปได้มากที่สุดเพื่อให้ได้ผลตามต้องการอยู่ดี
เลือกลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งลูกค้าที่คุณเลือกมาเป็นกลุ่มเป้าหมายของอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญอาจจะต่างไปจากกลุ่มเป้าหมายทั่วไปของคุณ ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่คุณอยากร่วมงานมีผู้ติดตามเป็นคนกลุ่มเดียวกับกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีคนติดตามมากและคุณชื่นชอบผลงานของอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นมากเป็นพิเศษ แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายไม่ตรง การมีส่วนร่วมกับแคมเปญของผู้ชมที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ตามต้องการก็มีโอกาสเกิดได้น้อย
เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่สำหรับแบรนด์
คือการเลือกคนที่มีคาแรกเตอร์ตรงกับความเป็นแบรนด์ของคุณ อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่ทำหน้าที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งคุณเลือกคนที่รู้สึกอินกับแบรนด์ของคุณและมีกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกันได้มากเท่าไรแคมเปญก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง และอย่าลืมเช็คให้แน่ใจด้วยว่าคนที่ติดตามอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นคือคนที่ชื่นชอบในตัวอินฟลูเอนเซอร์จริงๆ ไม่ใช้ผู้ติดตามที่เกิดจากการใช้ Bots หรือโปรแกรมเพิ่มคนติดตาม
สนใจบริการทำโฆษณาออนไลน์จาก Fuse ติดต่อมาได้ตามช่องทางนี้เลย
Web: fuse.sellsuki.com
Facebook: m.me/fusebysellsuki
โทร: 020263250
Add LINE: @fusebysellsuki
ใครที่สนใจอยากพูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ กดเข้ามาเพื่อเข้ากรุ๊ปได้ที่นี่เลยค่ะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยนะ ^^
ที่มา: www.forbes.com