การค้าขายต้องมาคู่กับกำไรอยู่แล้ว ใครจะยอมทำงานหนัก ๆ เพื่อของฟรี คิดเอาง่าย ๆ ว่าการค้าแบบไหนที่จะทำให้ได้ธุรกิจผลิตกำไรออกมาได้มากที่สุด การขายสินค้าได้จำนวนมากเป็นคำตอบ แล้วจะทำอย่างไรให้สินค้าขายได้มากขึ้น วันนี้พ่อค้าแม่ค้าจะได้รู้ถึงวิธีการเจาะตลาดให้ได้ลูกค้าที่ละมาก ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าออกไปมากขึ้น เหมือนการเหวี่ยงแห่จับปลา ถ้าพ่อค้าแม่ค้าคิดจะเหวี่ยงไปกลางมหาสมุทร อาจจะเสี่ยงได้ปลาที่ไม่ต้องการมากกว่า แต่ก็ทำให้เราได้ปลาจำนวนมาก แต่ถ้าพ่อค้าแม่ค้าลองไปเหวี่ยงแห่ในบึง เหวี่ยงแห่ไปยังไงก็ต้องมีปลาติดมาบ้าง ถ้าโชคดีก็ได้ปลาเยอะหน่อย แต่ถ้าโชคไม่ดีอย่างน้อยก็พอจะมีปลาติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ไม่ได้กลับมามือเปล่าอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการขาดทุน (คงไม่มีใครอยากขาดทุนอยู่แล้ว) ไม่อยากให้ค้าขายแล้วกินแห้ว พ่อค้าแม่ค้าจึงควรรู้วิธีการเหวี่ยงแห่ให้สามารถจับปลาได้จำนวนมากก่อน แนวคิดที่จะมานำเสนอต่อไปนี้เป็นไอเดียคร่าว ๆ ในการวางแผนการขายสินค้า ที่แม้จะเป็นสินค้าบ้านๆ ธรรมดาๆ ให้ดึงดูดคนจำนวนมากค่ะ
สร้างความตื่นเต้น เร้าใจ
เห็นชื่อแบบนี้แล้วไม่ได้จะต้องพาลูกค้าไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกาให้ลูกค้าหัวใจวายตายนะ แต่การทำให้ลูกค้าตื่นเต้นเร้าใจ เป็นการท้าทายความสามารถพื้นฐาน ความอยากเอาชนะของมนุษย์เราทั่ว ๆ ไป ใคร ๆ ก็อยากจะชนะและเป็นที่หนึ่ง พ่อค้าแม่ค้าเลยต้องจับเอาไอเดียนี้มา เพื่อตีตลาด ถ้าเป็นการค้าทั่วไปอาจจะมีการจัดตั้งออกบู้ทขายของ เอาสินค้ามาให้ลองใช้ ลองสัมผัส เพื่อเป็นการเรียกคะแนนความน่าสนใจ แต่ร้านค้าออนไลน์จะทำแบบนี้ก็คงไม่ได้ เพราะหน้าร้านก็มีเพียงแค่หน้าจอสี่เหลี่ยม จะให้ลูกค้าเอามือทะลุหน้าขอเข้ามาจับก็ดูจะเป็น x-men กันเกินไปหน่อย สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือการจัดโปรโมชั่นล่อตาล่อใจออกมา แต่ก็คงไม่ใช่แค่การลดราคากระหน่ำกันอย่างเดียวที่จะเรียกความตื่นเต้น เร้าใจได้ มันจะต้องเป็นโอกาสดีที่จะให้ลูกค้าได้ลองมีโอกาสใช้ของฟรี เพราะลูกค้าจะรู้สึกโชคดีที่ได้มีโอกาสสัมผัสสินค้าดี ๆ บ้าง
สร้างความรู้สึกดี ประทับใจ
อันนี้พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาดคือการสร้างความรู้สึกดี เนื่องจากจำนวนลูกค้ากลุ่มนี้มีขนาดมหาศาลมาก ข่าวไม่ดีก็สามารถกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว อาศัยแต่เพียงริมฝีปากกับอารมณ์การเม้าท์ให้ถึงพริกถึงขิง ความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะดูกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที อีกอย่างหนึ่งที่เลยคือการติดต่อกันของลูกค้ากลุ่มใหญ่ ไม่ได้มีรายได้พิเศษพอให้ซื้ออะไรมาก สินค้าที่สามารถซื้อได้ จะไม่ได้อยู่ในระดับสูงแบบแพงหูฉีก เน้นราคาและคุณภาพเหมาะสมตามราคา ถ้าพ่อค้าแม่ค้าสามารถมัดใจได้ด้วยการบริการเพิ่มเข้าไปก็คงจะดีไม่น้อยเลย แล้วลูกค้าจะทำหน้าที่ในการบอกต่อสินค้านี้เอง ถ้ามันเด็ด มันโดนสมตามราคา แล้วบริการดี อีกไม่นานข่าวความแซ่บของสินค้าก็จะไปเข้าหูของใครหลาย ๆ คนให้มาลองสินค้าดู เพราะฉะนั้นพ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมรับมือดี ๆ กับลูกค้าที่จะเข้ามาเพิ่ม คุณภาพและการบริการยังต้องรักษาระดับให้ได้ดีเหมือนเดิม ไม่งั้นถ้ามาแล้วลูกค้าผิดหวัง พ่อค้าแม่ค้าไม่เพียงแต่จะเสียชื่อ ลูกค้าเดิมก็พาจะไม่แน่ใจไปด้วย
จริงๆ แนวคิดพวกนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะกับสินค้าบ้านๆ เท่านั้นนะคะ เพราะไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดไหน การดึงดูดใจลูกค้าที่ทำให้รู้สึก “เร้าใจ” ไม่ว่าจะในคุณสมบัติของตัวสินค้า หรือ ราคา และการทำให้ลูกค้ารู้สึก “ประทับใจ” ในบริการและสิ่งอื่นๆ นอกเหนือจากตัวสินค้า เป็นสิ่งที่คนขายของควรมีไว้ในสัญชาตญาณของนักขาย! ใครที่ยังรู้สึกว่าการนำเสนอสินค้าของตัวเองดูจืดชืดอยู่ ลองนำไปปรับใช้กันนะคะ
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^