จะรับมือยังไง…ถ้าวันนึงการตลาดบน Facebook เริ่มถึงขาลง
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรที่สามารถอยู่ยงคงกระพันได้นานหรอกจริงมั้ยคะ? Social Network เองก็เช่นกัน เพราะทุกวันนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางตัวก็ใช้งานได้ดี มีผู้ใช้งานมากมาย และประสบความสำเร็จชั่วข้ามคืน แต่บางตัวที่เกิดขึ้นมากลับต้องปิดตัวลงไปในทันทีเพราะไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานก็มีมากเหมือนกัน ดังนั้น อย่าคิดว่า Facebook ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่นั้นจะไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
พ่อค้าแม่ค้าอย่างเราๆที่ค้าขายกันผ่าน Facebook ย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน ยิ่งล่าสุดนี้ได้มีการสำรวจวัดการเข้าถึง (Organic Reach) ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ของแฟนเพจหรือแบรนด์ต่างๆที่ตกลงไปถึง 5% เลยทีเดียว บางแบรนด์มีการเข้าถึงจากผู้ที่กดไลค์เพจน้อยลงกว่าเดิมมากก็มี
ส่วนหนึ่งก็มีผลมาจากนโยบายการโชว์ Content ของ Facebook ด้วยเช่นกัน แต่พ่อค้าแม่ค้าเจ้าของเพจอย่างพวกเราควรจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรดีล่ะ?
1. โพสต์ให้ถี่ขึ้น และมีหลายสิ่งในโพสต์เดียว
วิธีนี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดีเพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่นิยมแชร์โพสต์ที่มีทุกอย่างพร้อมในโพสต์เดียว เช่น มีข้อความ รูปภาพ และลิ้งค์ด้วย เป็นต้น ซึ่งในตอนนี้ Facebook เองได้มีนโยบายการเพิ่มการเข้าถึงสำหรับโพสต์ที่มีรูปภาพหรือลิ้งค์อยู่ด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ใช้งานจะสามารถเห็นโพสต์ของเราได้มากขึ้นนั่นเอง แค่นั้นยังไม่พอ เราต้องขยันอัพเดท และโพสต์ Content ถี่ๆ เพื่อให้คนได้เห็นโพสต์จากเพจเราบ่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าถี่เกินไป อาจจะแค่ทุก 2-3 ชั่วโมง โดยพยายามควบคุมเนื้อหาที่จะโพสต์ในแต่ละวันให้หลากหลาย ไม่ซ้ำกัน
2. เพิ่มช่องทางติดต่ออื่นๆด้วย
Facebook ไม่ใช่ช่องทางเดียวในการสื่อสารออนไลน์ ยังมีอีกหลายช่องทางให้เราได้เลือกใช้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะหยุดขายของทาง Facebook ไปเลยนะคะ เราสามารถสร้างช่องทางขายของบน Social Network อื่นๆควบคู่กันไปด้วย เช่น ใช้ Twitter, Instagram, Line, หรือติดต่อทาง Webboard ต่างๆ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า บางทีเราอาจจะได้พบลูกค้าใหม่ๆผ่านทางช่องทางอื่นๆนอกเหนือจาก Facebook ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามช่องทางหลักของเรายังคงเป็น Facebook เพราะเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Facebook ก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดีค่ะ
3. ข้อมูลต้องเชื่อมโยงกัน
อย่างที่บอกว่าเราสามารถสร้างช่องทางขายของได้หลายช่องทาง แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำก็คือ การโพสต์ทุกสิ่งทุกอย่างให้เหมือนกัน เสมือนว่าทุกช่องทางเป็นคนคนเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ ให้เราใช้วิธีการแชร์ลิ้งค์จาก Facebook ไปเลยยิ่งดี เพราะจะเป็นเหมือนกันดึงลูกค้าจากช่องทางอื่นๆเข้ามาสู่หน้า Facebook ของเรานั่นเอง โดยเราอาจจะขึ้นข้อความเกริ่นนำเล็กน้อย และแทรกลิ้งค์ให้อ่านต่อ เพื่อเข้าสู่แฟนเพจ ก็ถือเป็นการเพิ่มการเข้าถึงโพสต์ไปในตัวด้วย
4. โฆษณาบนเว็บไซต์อื่น
การซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์อื่น เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ และเริ่มเห็นหลายเพจทำกันมากขึ้นแล้วค่ะ โดยเราอาจจะเลือกซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเข้าใช้งานบ่อยๆ เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงการมีตัวตนของเพจเรา และทำโฆษณาให้น่าดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมาย ให้ลิ้งค์เข้ามาสู่เพจเพื่อเพิ่มการเข้าถึง ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกัน บางเว็บไซต์เราจะไม่ได้เห็นเป็นแค่โฆษณาอย่างเดียวนะคะ เขานำมาเป็น Like Box เลย ไอ้เจ้า Like Box ก็คือกล่องที่เป็นรูปผู้ใช้งาน Facebook มากมายขึ้นโชว์ว่า พวกเขากดถูกใจเพจนี้นะ และจะมีปุ่มสำหรับกดไลค์ไว้ในกล่องนี้ด้วย เรียกได้ว่าอันเชิญปุ่มถูกใจมาไว้บนเว็บไซต์กันเลยทีเดียว
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^