5 คำโฆษณาแย่ๆ ที่คุณควรเลี่ยง
การจะเขียนข้อความโฆษณาแต่ละครั้ง เราต้องคิดให้ดี ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ว่าข้อความเหล่านั้นพร้อมที่จะถูกเผยแพร่แล้วหรือยัง วันนี้เราลองมาดู 5 คำโฆษณาแย่ๆ ที่คุณควรเลี่ยง และระวังอย่าให้เกิดขึ้นกับร้านของคุณกันดีกว่า
1. ไม่มี Keyword
ถ้าไม่มี Keyword แล้วลูกค้าจะหาเราเจอได้อย่างไร?
Keyword คือ คำที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถหาร้านของเราได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นในการเขียนคำโฆษณาทุกครั้ง เราควรใส่ Keyword เข้าไปในข้อความด้วย สมมติว่าเราเป็นร้านขายดอกไม้ เราก็แทรกคำว่า “ดอกไม้” เข้าไปในข้อความโฆษณาด้วย และเมื่อมีลูกค้าต้องการจะสั่งซื้อดอกไม้ออนไลน์ พอเขาใส่คำค้นหาว่า “ดอกไม้” เขาก็จะเจอร้านเราอยู่ในผลลัพธ์นั้นด้วยนั่นเอง
2. Keyword กว้างเกินไป
เราใส่ Keyword ไปแล้วนะ แต่ทำไมคนยังไม่เจอร้านเราอีก
บางครั้ง การที่เราคิดว่าใส่ Keyword แล้ว ลูกค้าจะเห็นเราแน่นอน มันไม่จริงเสมอไป เราต้องสำรวจด้วยว่า Keyword ของเรากว้างเกินไปหรือเปล่า เช่น เราขายเสื้อผ้าผู้ชาย แต่เราใส่ Keyword ว่า “เสื้อผ้า” คนที่เข้ามาเจออาจเป็นผู้หญิง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้ามาดูร้านเราเลย หรือถ้าเราใส่ Keyword ว่า “เสื้อผ้าสวยๆ” คนค้นหาก็อาจเป็นผู้หญิงอีกอยู่ดี สุดท้าย Keyword นี้ก็ไม่ตรงกลุ่ม เพราะฉะนั้น เราควรใส่คำว่า “เสื้อผ้าผู้ชาย” หรือ “เสื้อผ้าเท่ๆ” แทนจะดีกว่าค่ะ รับรองว่าตรงกลุ่มเป้าหมายและไม่กว้างเกินไปด้วย
3. สะกดผิด
อีกหนึ่งข้อผิดพลาดที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นในการทำโฆษณาก็คือ การสะกดคำผิด
ทุกวันนี้เราจะพบเห็นภาษาวิบัติมากมายที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชี่ยล บางสิ่งบางอย่างก็ดูน่ารัก อินเทรนด์ เราก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสะกดคำให้ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะเป็นภาษาวัยรุ่น การเลือกใช้วรรณยุกต์ที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างเช่น คำว่า นะคะ กับ นะค่ะ ที่ใช้ผิดกันบ่อยๆ (ที่ถูกต้องเป็นคำว่า “นะคะ”) เมื่อไหร่ก็ตามที่ร้านของเรามีข้อความโฆษณาที่สะกดผิดแบบนี้ มันจะแสดงออกถึงความไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควร ลูกค้าอาจไม่ไว้วางใจในร้านของเรา เพราะแค่ตรวจสอบการสะกดคำยังไม่ถูกต้องเลย ใช่มั้ยล่ะคะ
4. ใช้ตัวย่อ
บางคำย่อได้ก็ย่อ ย่อไม่ได้ก็เขียนเต็มไปเลยดีกว่า
บางครั้งการที่เราใช้คำย่อเพื่อที่จะประหยัดตัวอักษรของข้อความโฆษณาก็ถือเป็นเรื่องดี เช่น การย่อชื่อเดือน (สิงหาคม เป็น ส.ค.) เป็นต้น แต่ถ้าคำนั้นเป็นคำที่ยากและคนทั่วๆไปไม่สามารถเข้าใจได้ เราก็ไม่ควรย่อ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจแล้ว ยังทำให้ลูกค้าอ่านแล้วต้องมานึกตามว่ามันคืออะไรกันแน่ สู้เขียนแบบเต็มไปดีกว่า ลูกค้าอ่านรอบเดียวเข้าใจเลย ไม่เกิดความรำคาญใจ (คหสต. ความเห็นส่วนตัว)
5. บรรยายเกินความจริง – พิมพ์ซะยาวเหยียด
ข้อนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
การโฆษณาเกินจริง เช่น ครีมของเรา ทาครั้งเดียวขาวทันที เป็นต้น ถือเป็นข้อความโฆษณาที่บรรยายเกินความจริงไปมาก เพราะลูกค้าแต่ละคนมีวิจารณญาณต่างกัน บางคนเข้าใจว่าเป็นเพียงคำโฆษณา แต่บางคนไม่เข้าใจ ก็จะเชื่อและคาดหวังในตัวสินค้ามาก สุดท้ายเมื่อใช้แล้วผลไม่เป็นไปตามที่คาด คนที่เสียหายคือพ่อค้าแม่ค้าเอง เพราะเราได้กล่าวอ้างเกินจริงไปตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้น เราควรโฆษณาแต่พอเหมาะพอควร ตามความเป็นจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
(Tips : การโฆษณาบน facebook ที่ดี ไม่ควรเกิน 5 บรรทัด)
กว่าจะโพสได้แต่ละที ต้องคิดให้ดี
เพราะ Social Media นั้นเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร การที่เราสื่อสารไปยังลูกค้าได้ “ตรงใจ” และ “ตรงจุด” ย่อมทำให้ร้านออนไลน์ของเรามาเหนือคู่แข่งแน่นอน! ร้านค้าออนไลน์ที่เป็นมืออาชีพอาจจ้างแอดมินดูแลเพจเพิ่ม หรือไปเกณฑ์ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้อง และแฟนๆ มาช่วยควบคุมดูแลเนื้อหาของแต่ละโพสโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นแล้ว ยังเกิดเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อร้านของเราเองด้วย แต่สำหรับเจ้าของร้านสาย Hardcore ชอบลุยเดี่ยว ก็อาจจะต้องเหนื่อยหน่อย เพราะลำพังแค่จัดการกับออเดอร์มหาศาล หรือ ต้องคอยตอบลูกค้าจำนวนมาก ไหนจะต้องเตรียมแพ็คของส่งอีก ก็คงทำให้เราไม่มีแรงไปคิดแผนโปรโมตร้านดีๆแล้วใช่มั้ยละ?
ใช้ Sellsuki … เหลือเวลาว่างให้เจ้าของร้านคิดอะไรดีๆได้อีกเยอะ
แนวคิดของ Sellsuki เกิดจากการมองเห็นถึงปัญหาของแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ ที่เหน็ดเหนื่อยกับการตอบลูกค้า ดูแลออเดอร์ เราทำให้เวลา 24 ชั่วโมงของแม่ค้าพ่อค้า คุ้มค่ามากขึ้นกว่าเดิม เหมือนมีผู้ช่วยดูแลเพจ และผู้ช่วยดูแลระบบหลังร้าน เรื่องวุ่นวายเดิมๆที่เคยเจอจากการ Chat ขายของ ปล่อยให้ Sellsuki จัดการให้ แล้วเวลาว่างที่เหลือคุณอยากจะใช้มันไปกับอะไร ก็แล้วแต่เลย : )
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^