เรื่องบางอย่างเราสามารถเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์จริงๆ แต่บางอย่างก็ต้องลองทำเองก่อนถึงจะรู้และได้เจอ วันนี้ “แม่ค้าผู้น่าlike” เลยขอรวบรวมเหตุการณ์ 5 อย่าง ที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอ แต่ก็เจอจนได้ ใครยังไม่เจอก็โชคดีที่ได้อ่านบทความนี้ก่อน ส่วนใครที่เคยเจอมาแล้ว “แม่ค้าผู้น่าlike” เชื่อว่าแต่ละคนคงเลเวลอัพเป็นร้านค้าระดับมืออาชีพกันหมดแล้วแน่นอน 😉
1. ลูกค้าถูกเสมอ…แต่ที่เจอก็ไม่ได้น่ารักทุกคน
ธุรกิจออนไลน์ถือเป็นงานด้านการบริการอย่างหนึ่ง เพราะ นอกเหนือจากสินค้าที่สั่ง ยังต้องอาศัยบริการส่วนเสริมต่างๆเข้าไป เพื่อส่งมอบสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างเรียบร้อยที่สุด เรียกได้ว่าสัดส่วนความสำคัญระหว่างสินค้าที่ขาย และ บริการจากทางร้าน ถือเป็น 50-50 เลยทีเดียว ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
ทีนี้พอมีเรื่องของการบริการเข้ามา ในฐานะเจ้าของร้าน เราก็ต้องดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด เพราะในวันที่ลูกค้าตัดสินใจทัก Inbox เข้ามา (หรือติดต่อเข้ามาทางอื่นๆ) นั่นหมายความว่า คนเหล่านั้นกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างที่รอการบรรเทาจากสินค้าและบริการของเรา ดังนั้น สิ่งที่ออกมาจากปากลูกค้า ถือเป็นข้อมูลชั้นดีที่เจ้าของร้านควรเก็บมาพิจารณา แต่ข่าวร้ายคือ ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่จะพูดกับเราดีๆ ท่องไว้ว่า “ลูกค้าถูกเสมอ…แต่ที่เจอก็ไม่ได้น่ารักทุกคน” รับฟังทุกคน แต่ไม่ต้องใส่ใจทุกคน จะช่วยให้เจ้าของร้านโฟกัสสิ่งที่ต้องโฟกัสจริงๆ
2. งบบานปลาย เพราะลืมคำนวณค่าเสียหายจากการขนส่ง
ร้านเล็กๆ คงไม่เห็นภาพ แค่ถ้าเป็นร้านใหญ่ๆที่แต่ละเดือนมียอดออเดอร์เป็นร้อยเป็นพัน หรือร้านที่ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ คงเคยประสบปัญหาจากการขนส่งสินค้ากันมาบ้างแล้ว จริงอยู่ที่ในปัจจุบันสถิติสินค้าเสียหายจากการใช้บริการไปรษณีย์ไทยจะมีเพียงไม่ถึง 1% และส่งของล่าช้า 3,000 รายการจากจำนวนพัสดุทั้งหมด (ข้อมูลสถิติจากที่นี่) แต่ยิ่งเรามีสเกลการส่งของที่สูงขึ้น หรือยิ่งต้องส่งของระหว่างประเทศด้วยแล้ว ความเสี่ยงที่เกิดจากการส่งสินค้าก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
การป้องกันไว้ก่อน จึงเป็นทางเลือกที่ดีสุด เช่น เลือกใช้บริการขนส่งสินค้าที่มีนโยบายรับประกันสินค้าเสียหาย การเผื่องบประมาณไว้ในส่วนการบรรเทาความรู้สึกลูกค้าที่ต้องรอสินค้านานๆ หรือเผื่องบประมาณไว้สำหรับร้านค้าในวันที่การขนส่งสินค้ารอบนั้นๆเกิดความเสียหายเพื่อที่ร้านค้าจะยังคงมีสภาพคล่อง การทำประกันสินค้าเสียหาย การเลือกใช้วัสดุคุณภาพช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บรรจุภันฑ์สินค้า เป็นต้น
3. อย่าคิดว่า “การโกง” เป็นเรื่องไกลตัว
เวลาได้ยินข่าวดราม่าจากสื่อโซเชียลบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโดนร้านออนไลน์โกง โดนลูกค้าโกง โดนคนหลอกปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วมาโกง ฯลฯ สารพัดการโกงเกิดขึ้นรอบตัว และแน่นอนว่ามันก็มีโอกาสเกิดขึ้นกับคุณได้เช่นกัน อย่าชะล่าใจไป กับลูกค้าบางคนที่เป็นเจ้าประจำ ซื้อของด้วยกันตอนหลังๆไม่ต้องเช็คยอดเงินเข้าก็ได้…แบบนี้เป็นตัวอย่างของการชะล่าใจ เพราะสุดท้าย รูปแบบการโกงที่คลาสสิคที่สุดก็มักจะมาจากคนที่เรารู้สึกไว้ใจที่สุดนั่นเอง ในการทำธุรกิจออนไลน์ ยิ่งไม่เห็นหน้าค่าตากันแล้ว เจ้าของร้านออนไลน์ยิ่งต้องรัดกุมกว่าเดิม จะทำธุรกรรมอะไร ต้องมีหลักฐาน ต้องเช็ค Statement กับธนาคารด้วยตัวเอง หรือในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ถ้าจะให้ดีต้องมีหลักฐานยืนยันตัวตนที่ชัดเจน สืบหามาก่อนว่ามีชื่อเสียมาก่อนหรือไม่ หรือบางทีก็ต้องใช้สัญชาตญาณของตัวเองว่ากำลังพาตัวเองไปตกอยู่ในความเสี่ยงหรือเปล่า
4. อธิบายชัดเจนเกินไป…ไม่มีใครอ่าน!
อีกสิ่งหนึ่งที่เซอร์ไพรซ์เจ้าของแบรนด์ออนไลน์เป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าในการโพสต์สิ่งต่างๆบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ขายสินค้า โพสต์แคมเปญออนไลน์กิจกรรมร่วมสนุก หรือแม้กระทั่งการบรรยายสรรพคุณของสินค้า ถ้าเจ้าของร้านปรารถนาดีอธิบายทุกอย่างด้วยการเขียนราวกับภาษากฎหมาย ใช้ภาษาแบบสุภาพสุดๆ ด้วยหวังว่าจะไม่ทำให้ลูกค้าสับสนและแสดงความเคารพ ขอบอกว่า “คิดผิด” ค่ะ ลองสังเกตข้อความต่อไปนี้
1. กิจกรรมเปลือยหน้าท้าแดด โดย ครีมกันแดด AAA
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม (ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะผู้หญิง) จะต้องถ่ายรูปตัวเองขณะกำลังทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยไม่ต้องใช้ร่ม หรืออุปกรณ์ใดๆเพื่อบังแสงแดด อัพโหลดภาพพร้อมตั้งเป็น Public ไว้ พร้อมตั้ง Caption ตอบคำถามที่ว่า “สาวไทยทำไมต้องกล้าสู้แดด?” พร้อมกับติดแฮชแท็ก #ครีมกันแดดAAA ผู้ชนะกิจกรรมจะได้รับของรางวัลเป็นกิ้ฟเซ็ตAAA มูลค่า 5,000 บาท 5 รางวัล หมดเขตวันที่ 31 กุมภาพันธ์ 2559
2. กิจกรรมเปลือยหน้าท้าแดด โดย ครีมกันแดด AAA
อย่ามัวแต่หลบแดด! สาวไทยต้องกล้าสู้แดด ด้วยครีมกันแดด AAA เพียงอัพรูปตัวเองอยู่กลางแดด โชว์หน้าสวยๆ แล้วใส่ Caption บอกว่า ทำไมคุณถึงกล้าสู้แดด #ครีมกันแดดAAA เพียงเท่านี้ก็มีสิทธิลุ้นของรางวัลมูลค่า 5,000 บาทแล้ว รีบเลยหมดเขตวันที่ 31 กุมภาพันธ์ 2559 นี้แล้วนะ
จะเห็นได้ว่า 2 แคมเปญนี้ แบบที่ 2 ดูน่าร่วมสนุกกว่าเยอะ เพราะมีความอ่านง่ายเป็นกันเอง ไม่ยืดเยื้อ เพราะบนโลกโซเชี่ยลไม่ว่าคาแรคเตอร์ของแบรนด์จะเป็นแบบใด แต่สำคัญคือต้องให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเข้าถึงได้และเป็นกันเอง เพราะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง Cpmmunity ที่แข็งแกร่ง
5. โอกาสมีอยู่ทุกที่เสมอ
เคยมั้ย ที่หลายครั้งเราคิดจะขายอะไรซักอย่าง แต่ก็ไม่ลงมือทำ เพราะคิดว่าน่าจะขายไม่ได้ขายไม่ดี แต่พอเวลาผ่านไปกลับเจอคนทำในสิ่งที่เราเคยคิดไว้ แถมทำได้ดีซะด้วย ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นโอกาสของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน มีเพื่อนของ “แม่ค้าผู้น่าlike” ขายกางเกง Sweatpants (กางเกงผ้าหนาๆให้ลุคสปอร์ต หรือสำหรับออกกำลังกาย) ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่นิยมพอสมควรในบ้านเรา แต่พอหน้าร้อนมาถึง หลายร้านที่ขายสินค้าแบบเดียวกันเริ่มขายไม่ออก ขาดทุนกันไปเยอะก็มี แต่เพื่อนคนนี้กลับไม่หยุดนิ่งมองหาตลาดใหม่ๆ เป็นที่ที่อุณหภูมิ “เย็นๆ” ไม่ร้อนเหมือนในประเทศไทยแทน ทำให้ตอนนี้ก็ยังคงมีออเดอร์เข้ามาเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนตามอากาศเมืองไทยที่พุ่งสูงขึ้นเลย
เมื่อได้รู้แบบนี้แล้ว “แม่ค้าผู้น่าlike” หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อนๆเจ้าของร้านออนไลน์ ที่กำลังประสบปัญหาระหว่างทางสู่ความสำเร็จ จะได้รับไอเดียใหม่ๆในการจัดการเรื่องวุ่นๆที่เกิดขึ้น “แม่ค้าผู้น่าlike” ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยค่ะ
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^