ลองสวมวิญญาณเป็นลูกค้าบ้างดีกว่า
“ใจเขาใจเรา” ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังใช้ได้อยู่นะคะ ว่ามั้ย?
บางครั้งเราคิดแต่ในมุมมองของคนขาย เราจะพลาดอะไรหลายอย่างในมุมคนซื้อไป ทำให้การขายสินค้าหรือบริการของเราอาจมีข้อบกพร่องอยู่ก็เป็นได้
เพราะในความเป็นจริงแล้ว เราเป็นทั้งคนซื้อและคนขายในคนเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเราลองมาสวมวิญญาณเป็นคนซื้ออย่างเดียวซักหนึ่งวัน เพื่อเจาะลึกความรู้สึกและความคิดเห็นของลูกค้าที่มีต่อสินค้าหรือบริการของร้านกันเถอะ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจลูกค้าที่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์เสมอ คือ “ความกังวล” ซึ่งสุดท้ายจะนำไปสู่ความกลัวและไม่กล้าตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด ว่าแต่ความกังวลของลูกค้าคืออะไร? แล้วเราจะสามารถกำจัดความกังวลของลูกค้าได้อย่างไรบ้าง?
1. ความกังวลเรื่องคุณภาพสินค้า
นี่คือความกังวลอันดับแรกของลูกค้าทุกคนก็ว่าได้ จากประสบการณ์ตรงของนักช้อปออนไลน์ หลายคนมักบอกว่า สินค้าที่ซื้อจากร้านขายของออนไลน์มักไม่เป็นไปตามคำโฆษณา บางเจ้ารูปภาพสวยมากแต่ของที่ส่งมาไม่เหมือนในรูปภาพซักนิด บางเจ้าบอกว่าของสมบูรณ์ 100% แต่พอได้รับแล้วกลับพบรอยตำหนิ และยังมีกรณีอื่นๆอีกมากเกี่ยวกับปัญหาของตัวสินค้า เจออย่างนี้เป็นใคร ใครก็โมโหเนอะ!
วิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น คือ “ความซื่อสัตย์” นั่นเอง
เราต้องนำเสนอสินค้าตามความเป็นจริง ไม่ว่าสินค้าจะอยู่ในสภาพไหน ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรนำรูปสินค้าจาก Internet มาใส่ แต่ควรเป็นรูปสินค้าจริง ที่ถ่ายเองจากสินค้าที่เรามีอยู่ แบบนี้ลูกค้าจะได้หายกังวลว่า นี่คือรูปสินค้าจริงรึเปล่า ถ้าร้านทำแบบนี้รับรองลูกค้าติดตรึม!
2. ความกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือของร้านค้า
เวลาลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในร้านที่มีแต่รูปกับเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ แน่นอนว่าลูกค้าต้องตั้งข้อสงสัยและเปรียบเทียบกับร้านอื่นแน่ๆว่า ร้านของเรามีความน่าเชื่อถือหรือไม่? ทำไมมีข้อมูลอะไรเลย?
ทางที่ดีที่สุดคือ เราต้องระบุข้อมูลเบื้องต้นให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ที่อยู่ของร้าน เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ช่องทางติดต่ออื่นๆ เวลาที่ร้านพร้อมให้บริการ วิธีการสั่งซื้อ วิธีการชำระเงิน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เราต้องระบุให้ลูกค้าอ่าน ไม่ต้องรอให้ลูกค้าถามแล้วถึงค่อยบอกนะจ๊ะ
3. ความกังวลเรื่องเงินๆทองๆ
อีกปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือ ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่จะคุ้นเคยกับการชำระเงินผ่านธนาคาร ตู้ ATM หรือ การทำธุรกรรมออนไลน์ซะเท่าไหร่ บางคนก็มีความกังวลกับค่าธรรมเนียมที่ต้องเสียให้ธนาคาร เจ้าของร้านอย่างเราจะจัดการได้อย่างไร?
หากเราต้องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพียงแค่เราเปิดบัญชีกับหลายธนาคาร เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะใช้ธนาคารไหน เราก็มีรองรับทุกธนาคาร ปัญหาการกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมก็จะหมดไป แถมทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ากับเราได้เร็วขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตามร้านค้าออนไลน์ควรจัดการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าเมื่อพบว่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริงๆ หรือควรหาวิธีการป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทีหลัง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ร้านเราเกิดปัญหาแล้วเพิกเฉยต่อการร้องเรียน สุดท้ายเราอาจเป็น Hot Topic ในโลกโซเชี่ยลเลยก็ได้นะคะ ( Hot ในทางไม่ดีนะ) อย่าลืมไปว่า เดี๋ยวนี้อะไรๆก็รวดเร็ว เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่ทันข้ามวัน เขาแชร์กันทั่วประเทศแล้วก็มี เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องคิดถึงผลกระทบระยาวยาวด้วยนะคะ
จากเรื่องเล็กๆของลูกค้าคนเดียว อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมได้เลยนะ
แล้ววันนี้คุณได้ลองสวมวิญญาณเป็นลูกค้าดูหรือยัง?
พูดคุยเรื่องทางธุรกิจและสร้าง Connection กับเพื่อนร้านค้าเจ้าอื่นๆ ได้ที่นี่เลยฮะ กรุ๊ปร้านค้าผู้น่า Like by Sellsuki อย่าลืม! ตอบคำถามก่อนเข้ากรุ๊ปด้วยน้า ^^