Rich Media เทรนด์โฆษณาที่มาแรงในไทย
ต้องยอมรับจริงๆว่า ไม่ว่าคุณจะหันไปทางไหน ก็มักจะรายล้อมด้วยโฆษณาหรือถ้อยคำทางการตลาด จะบนทางด่วน ริมถนน ในนิตยสาร ในห้าง ทุกหนทุกแห่งที่คุณไป รวมไปถึงอินเตอร์เน็ตด้วย
ทุกวันนี้สื่อออนไลน์เริ่มมีโฆษณาต่างๆมากมายถาโถมเข้ามาสู่สายตาของเรา ไม่ว่าจะเปิดดูเว็บไหน เราจะต้องพบเจอโฆษณามาในทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้น เราลองมาทำความรู้จักกับเจ้าโฆษณาออนไลน์กันดีกว่า ว่ามันมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร
โฆษณาสมัยนี้ ไม่ได้มีแค่ภาพนิ่งแบบสมัยก่อน โดยจะมีตั้งแต่ภาพเคลื่อนไหวธรรมดา (GIF) มีเสียงประกอบ มีวีดีโอประกอบ หรือแม้กระทั่งสื่อที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบได้ เช่น เป็น เกมส์ puzzle สั้นๆ ให้คนได้ลองเล่น เป็นต้น ทั้งนี้ สื่อโฆษณาทั้งหมดนี้เราเรียกรวมกันว่า “Rich Media” นั่นเอง
Rich Media นั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบแอนิเมชั่น มีเสียงประกอบ หรืออาจจะเป็นคลิปวีดีโอมาเลยก็ได้ เราจึงแยกประเภทออกมาได้ดังนี้
1. Pop-Up
เป็น Rich Media ประเภทที่เราพบเจอกันบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เจ้าตัวป๊อบอัพนี้จะเปิดหน้า Browser เล็กๆขึ้นมาอีกหน้านึง และจะมีเนื้อหาโฆษณาอยู่ในหน้านั้น
ข้อดีของโฆษณาประเภท Pop-up ก็คือ มันไม่รบกวนผู้ใช้งานมากเท่าไหร่ เพราะมันเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมา ถ้าไม่สนใจก็ปิดไปได้ทันที ส่วนข้อเสียก็คือ ผู้ใช้งานอาจไม่รอจนเห็นเนื้อหาครบถ้วน เขาอาจปิดทันทีที่มี Pop-up ขึ้นมา หรืออาจจะตั้งค่าไม่ให้เปิด Pop-up ด้วยซ้ำ โฆษณารูปแบบนี้ก็จะเปล่าประโยชน์ไปทันที
2. Floating Ads
โฆษณาประเภทนี้ก็พบเจอบ่อยไม่แพ้กันเลย เพราะมันจะลอยอยู่ตามหน้าเว็บ ไม่ว่าผู้ใช้จะเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลง มันก็จะตามไปด้วยเสมอ แต่หากสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีปุ่ม x (กากบาทเล็กๆ) อยู่ที่มุมโฆษณาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปิดมันได้
ข้อดีของโฆษณาประเภท Floating Ads คือ ผู้ใช้งานเว็บสามารถเห็นมันได้ตลอดเวลา แต่ข้อเสียก็คือผู้ใช้งานอาจจะรำคาญเพราะมันตามติดไปทุกที แทนที่จะเกิดความสนใจในโฆษณา ก็อาจจะกลายเป็นเพิกเฉยไปเลย
3. Expandable Ads
โฆษณาประเภทนี้จะเป็นแบบซ่อนไว้ เนื้อหาจะแสดงให้เราเห็นแบบเต็มๆก็ต่อเมื่อนำ Mouse ไปไว้ที่ตำแหน่งโฆษณา เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานมากเกินไป
ข้อดีของโฆษณาประเภท Expandable Ads คือ มันสามารถสร้างความสนใจ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้กดเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า Content ที่เราทำมันดึงดูดใจพอรึเปล่า เหมือนเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้อยากรู้อยากเห็นต่อเอง ไม่ได้บังคับให้เขามาดู แต่ข้อเสียก็คือ ถ้าผู้ใช้ไม่ได้สังเกตเห็น ก็จะพลาดเรื่องราวของเราไปเลย
เดี๋ยวนี้โฆษณาแบบ Rich Media กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อนมักมีแต่การเช่าพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ที่มีไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรมาก และมักจะเป็นแบรนด์เล็กๆ แต่เดี๋ยวนี้แบรนด์ดังเองก็เริ่มให้ความสนใจและมาทำการตลาดกับโฆษณาประเภทนี้ด้วยเช่นกัน
การจะเลือกซื้อพื้นที่โฆษณาก็มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลากหลาย ไม่ใช่แค่ตัวสื่อ แต่รวมไปถึงพื้นที่ที่เราจะเช่าด้วย ต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสื่อ จำนวน อัตราการเข้าถึง และความคุ้มค่าในการลงโฆษณา ถ้าเป็นแบรนด์ใหญ่ๆอาจไม่กระทบกระเทือนอะไร แต่ผู้ประกอบการรายย่อยอาจต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะช่องทางโฆษณาฟรีบนโลกออนไลน์ก็ยังมีอยู่มากเช่นกัน